พระพุทธศาสนาได้เข้ามาเผยแผ่ยังเนปาล
"
ในสมัยพุทธกาลประเทศเนปาลเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินเดียสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าคือ สวนลุมพินีก็อยู่ในเขตประเทศเนปาล
ปัจจุบันหลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วก็ได้เสด็จไปโปรดพระญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
พระอานนท์ได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในบริเวณนั้น แสดงว่าชาวเนปาลส่วนหนึ่งนับถือพระพุทธศาสนามาแต่ครั้งพุทธกาลแล้ว
สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชได้ทรงสร้างวัดและเจดีย์หลายแห่งในเนปาล ซึ่งยังคงปรากฏอยู่ที่นคร
กาฐมาณฑุในปัจจุบัน และในสมัยที่ชาวมุสลิมเข้ารุกรานประเทศอินเดีย พระภิกษุจากอินเดียได้หลบหนีเข้าไป
อาศัยในเนปาลและได้นำคัมภีร์อันมีค่าไปด้วยซึ่งมีการเก็บรักษาเป็นอย่างดีจนถึงทุกวันนี้หลังจากที่พระพุทธศาสนาเสื่อมสูญไปจากประเทศอินเดียแล้ว
พระพุทธศาสนาในประเทศเนปาลก็พลอยเสื่อมลงด้วย
การนับถีอศาสนาในประเทศเนปาล
แม้บางช ่วงบางตอน พระพุทธศาสนาเกือบสูญหายไปจากประเทศเนปาลแต่ก็มีบุคคลที่มี
ความตั้งใจจริงในการกอบกู้พระพุทธศาสนา เพื่อให้พระพุทธศาสนาคงอยู่ในประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดน
ประสูติของพระพุทธเจ้า บุคคลที่เป็นกำลังสำคัญคือ คณะธรรมทูตเนปาล ใน พ.ศ. 2487 ได้มีการขับไล่ภิกษุ
และพุทธศาสนิกชนออกจากเนปาลชาวพุทธในเนปาลได้ร่วมประชุมกันจัดตั้งธรรมโมทัยสภาขึ้นด้วยจุดประสงค์
ที ่จะธำรงไว้ซึ่งสวัสดิภาพของพระพุทธศาสนาในเนปาล และใน พ.ศ. 2489 คณะธรรมทูตจากประเทศศรีลังกา
เดินทางมาเข้าพบมหาราชแห่งเนปาล ได้มีการเจรจาให้คณะภิกษุที่ถูกเนรเทศกลับคืนมา ท่านนารทมหาเถระ
ได้เดินทางมาเนปาล พร้อมกับอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส ส่วนหนึ่งมาบรรจุไว้ในเจดีย์มหาราชแห่งเนปาล
ได้แสดงเมตตาจิตต่อคณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงประกาศเป็นทางการให้วันวิสาขปุรณมีเป็นวันหยุดงาน
ของชาวพุทธทั่วแคว้นเนปาล และเปิดห้องสมุดพระพุทธศาสนาขึ้นในคราวเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีวัดไทย
กิรติภิวันที่มีความสำคัญและสวยงาที่สุดของเมืองกิรติปูร์(อยู่ในความอุปถัมภ์ของสมเด็จพระสังฆราชของ
ประเทศไทยองค์ปัจจุบัน)