เมื่อช่วง พ.ศ. 1935 สมณฑูตซุนเตาได้นำพระพุทธศาสนจากประเทศจีนเข้ามาเผยแผ่ในอาณาจักรโกคุริโอ
(ประเทศเกาหลีในปัจจุบัน) พระพุทธศาสนาจึงมีการเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว
ครั้นถึง พ.ศ.1935 พระพุทธศาสนาในเกาหลีก็เริ่มเสื่อมลงเมื่อราชวงศ์โซซอนที่นับถือลัทธิขงจื๊อขึ้นมามีอำนาจปกครอง
และเชิดชูลัทธิขงจื๊อให้เป็นศาสนาประจำชาติ และทำการกดขี่ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนา
ในพ.ศ.2453 ประเทศเกาหลีตกอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นได้ออกกฎข้อบังคับควบคุมวัดวาอารามต่างๆ
ส่งเสริมให้พระสงฆ์มีครอบครัวได้ดำรงชีวิตเหมือนฆราวาส พระพุทธศาสนาจึงยังคงเสื่อมอยู่ ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2
กองทัพสหภาพโซเวียต และสหรัฐอเมริกาได้เข้ายึดเกาหลีจากญี่ปุ่น เการหลีจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศ คือ เกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ เมื่อเกาหลีพ้นจากการปกครองของญี่ปุ่นแล้ว พระสงฆ์จึงเคลื่อนไหวให้
รัฐบาลยกเลิกข้อบังคับต่างๆ และมีการจัดทำธรรมนูญปกครองคณะสงฆ์ขึ้นด้วย
การนับถือพระพุทธศาสนาในประเทศเกาหลี เนื่องจากเกาหลีเหนือปกครองด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ ซึ่งไม่สนับสนุนด้านพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาในเกาหลีใต้จึงเจริญรุ่งเรืองมากกว่า กิจการที่พระสงฆ์ในเกาหลีใต้ทำกันอย่างเข้มแข็งคือการศึกษา นอกจากจะมีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแล้ว ยังมีสถานศึกษาฝ่ายสามัญระดับต่างๆอีกด้วย