ศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองในเกาะลังกา
เมื่อพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ เสด็จกลับแล้วพระมหินทเถระ มอบให้สุมนสามเณร ประกาศเวลาฟังธรรมทั่วเกาะลังกา เสียงโฆษณานั้นกระฉ่อนไปถึงพรหมโลก เมื่อพระเถระเห็นเทวดามาประชุมกันมากมาย จึงแสดงสมจิตตสูตร ในเวลาจบกถา เหล่าเทวดาประมาณอสงไขยหนึ่งได้บรรลุธรรม นาคและสุบรรณมากมายก็ได้ตั้งอยู่ในสรณคมน์
วันรุ่งขึ้นพระราชาส่งรถไปรับพระเถระ และคณะไปฉันและแสดงธรรมในพระราชวังกรุงอนุราธปุระ ท่านไม่ขึ้นรถ แต่เหาะมาทางอากาศ เมื่อพระเถระเห็นการบูชาและสักการะของพระราชาแล้ว ก็คิดว่า พระพุทธศาสนาจักแผ่ไปทั่วลังกาทวีป และตั้งมั่นไม่หวั่นไหวดุจแผ่นดิน และได้แสดงเปตตวัตถุ วิมานวัตถุ และสัจจสังยุต โปรดพระราชาและชาวเกาะ
สตรีในวัง ๕๐๐ ที่มีพระนางอนุฬา เป็นประมุข ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน และแสดงอาสิวิโสปมสูตร มีผู้บรรลุพระโสดาบัน ๑,๐๐๐ คนในวันต่อมา พระเถระแสดงธรรม มีผู้บรรลุธรรม ๒,๕๐๐ คน พระราชาถวายพระราชอุทยานนันทวัน เป็นอารามแห่งแรกบนเกาะลังกา ชื่อว่าติสสะมหารามราชมหาวิหาร
พระเถระแสดงธรรมที่อุทยานนี้ทุกวันเป็นเวลา ๗ วัน มีผู้บรรลุธรรม ๘,๕๐๐ คน ตั้งแต่นั้นมาอุทยานนันทวันก็ได้ชื่อว่าโชติวัน เพราะว่า เป็นสถานที่พระศาสนาปรากฏความรุ่งเรืองขึ้น นอกจากนี้ อำมาตย์ชื่ออริฏฐะ กับพี่ชายและน้องชายรวม ๕๕ คน ได้ออกบวช และบรรลุเป็นพระอรหันต์ ทำให้ราชตระกูลประกอบด้วยเจ้าพี่เจ้าน้อง ๑๐ องค์ เกิดความเลื่อมใส ในเวลานั้นได้มีพระอรหันต์ ๖๒ รูป เข้าจำพรรษาแรกที่เจติยบรรพต